top of page
Black and White Abstract Texture

Introduction and Rondo no. 2 Op. 2  Dionisio Aguado
19th Century

Dionisio Aguado(1784 – 1849) with his Guitar and Tripodion

 แต่งโดย Dionisio Aguado นักกีตาร์คลาสสิกและนักแต่งเพลงชาวสเปนในช่วงปลายยุคคลาสสิกและยุคโรแมนติกตอนต้น เขาเป็นที่รู้จักจากงานคอนเสิร์ตและการสอนหนังสือ ตลอดจนหนังสือเรียนกีตาร์ เขาเลือกใช้บรรทัด5เส้นในการบรรทึกโน้ตแทนการใช้ Tablature(Tab) ที่เป็นที่นิยมสำหรับนักกีตาร์ในช่วงสมัยนั้น เพราะได้รับอิทธิพลมาจาก Federico Moretti นักกีตาร์ นักแต่งเพลง นักทฤษฎี ชาวอิตาลี เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมวงการของเขา Fernando Sor นักกีตาร์และนักแต่งเพลงชาวสเปน เขาได้คิดค้น Tripodion เป็นอุปกรณ์ที่ยึดกีตาร์ ทำให้สามารถเล่นกีตาร์ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากกีตาร์ในยุคนั้นมีขนาดเล็กกว่ากีตาร์ในปัจจุบัน

เพลง Introduction and Rondo ผลงานชิ้นเอกและเป็นหนึ่งในเพลงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพลงหนึ่งของเขา

1200px-Jean-Nicolas_Grobert_-_Early_Romantic_Guitar,_Paris_around_1830.jpg

Romantic Guitar

structure_p01_02.jpg

ด้านซ้ายคือกีตาร์ในปัจจุบัน ด้านขวาคือกีตาร์ในยุคศตวรรษที่19

คำว่า Rondo หมายถึงโครงสร้างทางดนตรีชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 18 และต้นศตวรรษที่ 19 โดยพื้นฐานแล้ว Rondo เป็นโครงสร้างทางดนตรีที่มีธีมหลัก สลับด้วยธีมที่แตกต่างกันตั้งแต่หนึ่งธีมขึ้นไป ซึ่งเรียกว่าตอน(Episodes) ทำนองธีมหลักทำนองแรกจะวนกลับมาอยู่ระหว่างแต่ละตอน เช่น ABACA, ABABA, ABACBA, หรือ ABACABA

rondo_form.png_revision=1.png

“ธีมของ Rondo นี้มีความคล้ายคลึงกับเพลง 'Pathetique' Sonata, Op. 13 no. 8 ที่มีชื่อเสียงของเบโธเฟน เนื่องจากงานชิ้นนี้ได้รับการตีพิมพ์ในปีที่เบโธเฟนเสียชีวิต (1827) บางทีอาจมองว่าเป็น 'บรรณาการ' แก่เบโธเฟน แต่อย่างไรก็ตาม เพลงนี้ถูกแต่งให้กับ François de Fossa เพื่อนนักกีตาร์ชาวฝรั่งเศษ ของ Aguado”

เพลงนี้จะอยู่ในคีย์ A minor ท่อน Introduction เป็นเหมือนการ improvise ก่อนเข้าตัวเพลงซึ่งเป็นธรรมเนียมของยุคนั้น มีการเน้นย้ำให้ผู้ฟังได้ยินคีย์ของเพลงด้วยการย้ำคอร์ด A minor ที่เป็น tonic ต่อด้วยคอร์ด E major ที่เป็น dominant แล้ววนกลับมาเป็นคอร์ด A minor อีกเป็นการย้ำคีย์หลักของเพลงให้ผู้ฟังชินหู ท่อน rondo เพลงนี้มีรูปแบบ rondo ทั่วไป หรือ ABACA โดยที่ตอน A นำเสนอธีมหรือทำนองหลักมีแนวทำนองที่น่าจดจำ แต่ทุกครั้งที่ท่อน A วนกลับมาจะมีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลนิดหน่อยทำให้เล่นยากขึ้นเรื่อยๆ ตอน B เป็นตอนที่ยาว พัฒนาเปลี่ยนจากตอน A และมีตอนย่อยที่หลากหลาย มีความแตกต่างกันออกไป มีการเปลี่ยนคีย์ไปเป็นคีย์ Dm ก่อนเปลี่ยนกลับเป็นคีย์ Am ตอน C เริ่มด้วยคีย์ C major ทำให้เสียงค่อนข้างแปลกจากเพื่อน มีการใช้ sixteenth note triplets เยอะกว่าตอนอื่นๆ โดยเพลงนี้จะข้อกำจัดที่เพลงจะต้องวนกลับมาในรูปแบบ rondo ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้มาก ต้องวนกลับมาธีมอยู่เสมอ

what_is_the_musical_form_of_rondo.png

เทคนิคที่ทำให้การเล่นเพลงนี้ยาก เป็นเพราะส่วนใหญ่ของเพลงจะวางรูปนิ้วเป็นรูปคอร์ดเสียส่วนใหญ่ เพราะถูกแต่งโดยนักกีตาร์เอง มีความต่างกับเพลงแรกในเรื่องของอารมรณ์เพลง ที่เริ่มมีโน้ตหลายจุดถูกเขียนกำกับความดังเบาเอาไว้  มีการใช้ Arpeggio scales และโน้ต sixteenth ที่เร็ว รัวติดๆกัน เทคนิคเหล่านี้จะแสดงทักษะของนักกีตาร์ ที่สำคัญคือเพลงนี้ถูกแต่งในยุคที่กีตาร์ยังมีขนาดเล็ก และช่องแคบกว่ากีตาร์ในปัจจุบัน

ตัวอย่างของโน้ตที่ถูกเขียนกำกับเรื่องของความดังเบา

มีการใช้ Arpeggio scales และโน้ต sixteenth ที่เร็ว รัวติดๆกัน

Music Guitar Recital

Supervisor

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชัญพงศ์ ทองสว่าง

ขอขอบพระคุณ

ดร.จิรเดช เสตะพันธุ

รองศาสตราจารย์ ดร.ธรรศ อัมโร

อาจารย์ เผด็จ เนตรภักดี

อาจารย์ วิทยา วอสเบียน

ดร.อภิชัย จันทนขจรฟุ้ง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อโณทัย นิติพน

Margaret Hayne Kim

  • alt.text.label.Facebook

©2022 by Music Guitar Recital. Proudly created with Wix.com

bottom of page